1. สีทารองพื้นโลหะ มีอยู่ 2 ชนิดด้วยกันครับ ได้แก่
สีทารองพื้นโลหะชนิดผสมผงซิงค์โครเมท ภาษาชาวบ้านก็คือสีกันสนิมนั่นล่ะครับ
สีชนิดนี้ จะทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้เหล็กสูญเสียอิเล็กตรอนให้กับอากาศ ดังนั้นเหล็กจึงไม่เกิดสนิม
ก่อนทาควรกำจัดสนิมให้หมดเสียก่อนแล้วผสมให้เจือจางด้วยทินเนอร์
สีทารองพื้นโลหะชนิดที่ทำมาจากอีพอกซี่ ใช้ทารองพื้นผิวที่เป็นเหล็กป้องกันการกัดกร่อนได้ดีมาก
สีชนิดนี้ส่วนใหญ่จะใช้ทารองพื้นโลหะในเรือเดินสมุทร
2. สีจริง เป็นสีที่ใช้ทาทับเพื่อความสวยงาม เป็นสีน้ำชนิดเดียวกับที่ใช้ทาไม้นั่นล่ะครับ
เนื่องจากสีน้ำมันมีคุณสมบัติการยึดเกาะได้ดีทั้งไม้ ปูนและโลหะ (ผิวไม่เรียบ)
อุปกรณ์ทาสี
เครื่องไม้เครื่องมือที่คุณจะต้องเตรียมสำหรับการทาสี ก็เป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน
ต้องเลือกใช้ให้ถูกประเภทของสี
เป็นความรู้ในการเลือกซื้อถูกจะได้ไม่ต้องเสียเงินฟรี หรือเสียเวลาเอาไปเปลี่ยนการทาสีน้ำมัน
คุณจะต้องเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ ดังนี้
แปรงสำหรับทาสีน้ำมัน มีขนาดความกว้างหลายขนาด หากพื้นที่กว้างก็เลือกชนิดหน้ากว้าง
หากพื้นที่แคบก็เลือกขนาดเล็ก ๆ สักหน่อยสีจะได้ไม่เลอะส่วนที่อยู่ใกล้เคียงบริเวณที่จะทา
ภาชนะผสมสี
ควรเตรียมให้มีขนาดที่เหมาะสม เพราะการผสมสีต้องผ่านกรรมวิธีการคนสีให้เข้ากับทินเนอร์ก่อนทา
ไม่ควรใช้ภาชนะพลาสติกนะครับ เพราะทินเนอร์หรือน้ำมันสนนั้นจะกัดเนื้อผิวพลาสติกจนละลาย
ภาชนะแช่และล้างแปรง
เมื่อทาสีเสร็จเรียบร้อย แปรงต่าง ๆ ยังคงสามารถเก็บไว้ใช้ได้
ดังนั้นเราควรมีภาชนะสำหรับแช่และทำความสะอาดแปรงด้วย
ภาชนะไม่ควรเป็นพลาสติก เพราะทินเนอร์หรือน้ำมันสนนั้นจะกัดเนื้อผิวพลาสติกจนละลายเช่นกัน
การทาสีน้ำพลาสติก มีอุปกรณ์ต่างออกไปจากสีน้ำมันดังนี้ครับ
แปรงดอกหญ้า (ทำมาจากดอกหญ้า) ชนิดเดียวกับที่เราใช้กวาดบ้านนั่นล่ะ
แต่จะไม่มีด้ามมัดให้ปลายดอกบานออกใช้จุ่มสีทาได้ ช่างมืออาชีพส่วนใหญ่จะใช้แปรงชนิดนี้
แปรงชนิดนี้ใช้แรก ๆ มักจะมีสีเหลืองตกออกมา
ดังนั้นควรแช่น้ำให้สีตกออกมาเสียก่อนจึงนำไปใช้ทาสีได้
ลูกกลิ้ง จะดีกว่าแปรงตรงที่ทาสีได้สม่ำเสมอและรวดเร็วกว่า
แต่ลูกกลิ้งไม่สามารถทาแทรกเข้าไปตามซอกมุมได้
ดังนั้นจึงต้องใช้แปรงช่วยในการเก็บงานอีกครั้งหนึ่ง
การเตรียมพื้นผิว
ผิวโลหะ :
ถ้าเป็นสนิม อย่ามองข้ามให้กำจัด (ให้สิ้นซาก) ให้หมดก่อน
ด้วยการใช้กระดาษทรายขัดบริเวณที่เป็นสนิม แล้วทารองพื้นกันสนิมก่อนทาสีจริงทับ
ผิวไม้ :
ต้องมั่นใจว่าไม้นั้นแห้งสนิทแล้ว จึงทำการขัดด้วยกระดาษทรายให้เรียบ
เช็ดฝุ่นผงไม้ที่เกิดจากการขัดออกให้หมด ก่อนทาทับด้วยสีรองพื้นไม้กันเชื้อรา
หากเป็นไม้เก่าที่ผ่านการทาสีมาแล้ว แต่สภาพดีก็สามารถใช้กระดาษทรายละเอียดขัดได้เลย
ก่อนล้างฝุ่นออกรอให้แห้งสนิทแล้วจึงทาสีทับต่อไป
แต่ถ้าสีเดิมมีการหลุดร่อน แตกลาย จะต้องใช้น้ำยากัดสีเก่าออกก่อน
น้ำยากัดสีตัวนี้แรงนะครับ ก่อนใช้ต้องมีการป้องกันร่างกายของเราด้วยการใส่ถุงมือ
และระวังอย่าให้กระเด็นถูกส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เพราะว่าจะแสบมาก
เมื่อลอกสีเก่าออกหมดแล้วควรทำความสะอาด จากนั้นทารองพื้น 2 ครั้ง
ทิ้งระยะเวลาห่างกัน 24 ชั่วโมงก่อนทาทับอีกครั้ง
หรือตามคำแนะนำของแต่ละผลิตภัณฑ์ (ข้างกระป๋อง)
ส่วนสีจริงต้องทาชั้นแรกทิ้งไว้ 16 ชั่วโมงแล้วค่อยทาชั้นที่ 2
ผิวปูน :
หากเป็นผนังปูนใหม่ต้องรอให้ผนังแห้งดีเสียก่อน แล้วใช้กระดาษทรายลูบ
เพื่อให้เม็ดทรายหรือคราบน้ำปูนหลุดออกก่อนทาทับด้วยสีรองพื้น และสีจริงตามลำดับ
หากเป็นผนังเก่าให้ตรวจดูสภาพ หากชำรุดมากให้ทำการล้างและขัดออกด้วยแปรงลวด
จากนั้นอุดโป้วรอยร้าวก่อนทำการขัดด้วยกระดาษทราย
ทารองพื้นด้วยสีรองพื้นปูนเก่า 1 ครั้งและสีจริง 3 ครั้ง
ก็เป็นอันพอจะรู้ขั้นตอนต่าง ๆ ของการทาสีกันบ้างแล้วนะครับ
สำหรับท่านใดที่ไม่มีเวลา แต่อยากเปลี่ยนบ้านหลังเก่าของคุณให้ดูใหม่ก็จ้างช่างครับ
แต่เตือนกันไว้สักเล็กน้อยครับ ช่างบางคนตบตาเจ้าของบ้านเพราะความขี้เกียจ
เช่น การเตรียมผิวไม้ต้องขัดกระดาษทรายให้เรียบร้อยก่อนแล้วจึงทาสี
ช่างบางคนแอบใช้สีพลาสติกทาทับอุดรอยเสี้ยนไม้ไปเลย รอจนแห้งแล้วใช้สีน้ำมันทาทับ
ดูว่างานสีน้ำมันค่อนข้างเรียบร้อย แต่นานไปจะเกิดการแตกและหลุดร่อนออกมา
ต้องรื้องานมาซ่อมกันใหม่ภายหลังแบบนี้ไม่ดีแน่ หากมีเวลาแอบดูวิธีการทำงานของช่างบ้างก็จะดีนะครับ
รับติดตั้ง ซ่อมแซม ออกแบบงานช่างสี ทุกรูปแบบ ศูนย์รวมสินค้างานช่างสี โดยทีมช่างมืออาชีพประสบการณ์สูง ออกแบบให้คำแนะนำ งานช่างสี งานช่างสี เป็นงานช่างขั้นสุดท้ายของงานช่างหลายแขนง เช่น งานไม้ งานปูน และงานโลหะ ในการจ้างช่างทาสีบ้านมืออาชีพเท่านั้น ประหยัดค่าใช้จ่าย ความปลอดภัย ประสบการณ์ อุปกรณ์ที่ทันสมัย ดูแล ซ่อมแซม ประเมินราคา ตามงบประมาณ รับประกันงานติดตั้ง ทุกพื้นที่ ทั่วจังหวัด ในราคาถูกที่เป็นกันเอง